โอกาสใน AEC ด้านพลังงาน

20:55 oonliner 0 Comments




เมื่อฉบับก่อนผมได้พาทุกท่านไปเยี่ยมชมโครงการการลงทุนใน AEC มาแล้ว  ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เดินหน้าไปเกินครึ่งแล้วฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานใน AEC คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อโครงสร้างเหล่านี้พร้อมประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ใช้พลังงานมากเป็นอันดับต้นๆของ AEC ย่อมถือว่าเป็นโอกาส AECของไทยก็ว่าได้เนื่องจากความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นเส้นทางโลจิสติกส์ และ โครงสร้างพื้นฐาน ที่เอื้อประโยชน์ต่อระบบส่งและการกระจายไฟไปยังประเทศอื่นโดยผ่านประเทศไทย

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่ได้บริหารจัดการทั้งอาเซียน ทว่าการเปิด AEC   ก็อาจจะเป็นโอกาส AECที่จะทำให้เราได้มีโอกาสบริหารจัดการได้ทั้งอาเซียนเพราะไทยอยู่ตรงกลาง เช่น ระบบส่งภายในประเทศของเมียนมาร์อาจะมีปัญหาหรือไม่ครอบคลุม เราสามารถเข้าไปช่วยเขาได้ในพื้นที่ๆมีชายแดนติดกัน

ประเทศลาวซึ่งภูมิประเทศจะทอดตัวยาวและมีภูเขาสูงมาก ที่สำคัญโรงงานผลิตไฟของเขาอยู่ทางเหนือไม่ว่าจะเป็นน้ำงึม1 หรือ น้ำงึม 2 ปัญหาคือระบบส่งไปสู่ลาวใต้อาจมีปัญหาก็จำเป็นต้องใช้ไฟจากทางอุบลราชธานี

นอกจากนี้ในอนาคต ชาติเพื่อนบ้านที่ยังผลิตไฟฟ้าไม่ทันอาจจะต้องปรับเปลี่ยนบางอย่าง  จากเดิมที่ต้องใช้โรงไฟฟ้าสำรองในช่วงเวลาที่ใช้ไฟมากก็อาจจะเปลี่ยนเป็นการ สับเปลี่ยนการใช้ไฟ  ทดแทน (  เวลาใช้ไฟสูงสุดของแต่ละประเทศจะคนละช่วงเวลากันโดยประเทศไทยจะใช้ไฟสูงสุดช่วงบ่าย 2 โมง  นั่นหมายความว่าเมื่อถึงบ่าย 2 ไทยก็จะดึงไฟจากลาวหรือพม่ามาใช้ และเมื่อถึงเวลาที่ชาติเหล่านั้นใช้ไฟสูงสุดเช่น บ่าย 3 โมง ไทยต้องคืนไฟให้กับประเทศเหล่านั้นได้)  ทำให้ไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มแต่นั่นหมายความว่า Asian Grid  (แผนการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของอาเซียนโดยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งผลิตในชาติอาเซียน)  จะต้องบรรลุตามข้อตกลงซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมากและมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบชัดเจน

ที่สำคัญเมื่อเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านโตและใช้พลังงานเยอะในขณะที่ระบบส่งยังไม่พร้อมก็จะเป็นโอกาสของไทยที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าวเพราะภายหลังจากที่เปิด AEC ทุกชาติต้องเกื้อกูลกันในเรื่องของพลังงานนี่คือโอกาส AECของไทยที่พอจะมองเห็นภาพได้ในขณะนี้ซึ่งชาติสมาชิกในอาเซียนต่างมองเห็นโอกาส AECที่จะพัฒนาพลังงานทางเลือกร่วมกัน
โอกาส AEC ของไทย ประการสุดท้ายคือ ตลาดพลังงานของอาเซียนไม่มีกำแพงภาษี ไม่มีการกีดกัน การส่งออกและนำเข้าทำกันโดยเสรีมาโดยตลอด  เป็นธุรกิจที่ต้องเน้นความร่วมมือมากกว่าการแข่งขันซึ่งต่างจากสินค้าตัวอื่นที่ต้องมีการแข่งขัน เรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบ

หากดูผิวเผินจะมองเห็นว่าเป็น โอกาส AEC เนื่องจากเราสามารถที่จะเลือกใช้พลังงานจากประเทศไหนในกลุ่มสมาชิกได้อย่างเสรี(แต่ต้องดูต้นทุน) แต่หากพิจารณาให้ดีจะพบว่า ชาติสมาชิกซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตพลังงานอย่างแท้จริง ในขณะนี้ได้แก่ ลาว, พม่า, อินโดนิเซีย,มาเลเซีย,บรูไน และในอนาคตก็จะเป็นเวียดนาม
ทว่ากลุ่มประเทศผู้ใช้พลังงาน(ผลิตได้น้อยหรือกำลังพัฒนาด้านพลังงาน) ได้แก่  ไทย ,ฟิลิปปินส์,สิงค์โปร,กัมพูชา  หากมองผิวเผินจะพบว่ามีผู้ผลิตมากกว่าผู้ใช้แต่ในระยะยาว เขาอาจจะไม่เหลือส่งออกเพราะความต้องการภายในประเทศที่มากขึ้นตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะพม่า

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาการใช้พลังงานและการหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ เพราะเราเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ในภูมิภาคแต่ไม่สามารถผลิตพลังงานใช้ได้เองไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน ,ก๊าซ, พลังงานน้ำ ,พลังงานลม หรือแม้กระทั่งพลังงานนิวเคลียร์ นี่คือปัญหาของไทยที่มองเห็นอย่างชัดเจนในขณะนี้
นั่นหมายความว่าการเปิด AEC จึงเป็นโอกาสของไทยในด้านพลังงานที่จะทำให้ไม่ต้องไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือถ่านหิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมลภาวะเป็นพิษแต่จะหันไปใช้นโยบายพึ่งพิงพลังงานจากต่างประเทศซึ่งรอขายไทย ไม่ว่าจะเป็นจีนตอนใต้ ,ลาว,เวียดนาม

แม้จะมีโอกาส AECแต่ทุกโอกาสกลับเต็มไปด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่ไทยต้องมีแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้นฉบับหน้าผมจะพาคุณผู้อ่านศึกษาในแนวทางหรือแผนรับมือ AEC สวัสดีครับ


You Might Also Like

0 ความคิดเห็น: