สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง:ความสำคัญของงานวิจัยและพัฒนาต่อการพัฒนาประเทศ
จริงๆ แล้วประเทศไทยให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาแค่ไหน?
ปรกติเมื่อพูดถึงการพัฒนาของประเทศมักจะนึกถึงอัตราการเพิ่มของ GDP เราเคยได้ยินกันมามากแล้วถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
แต่ในขณะเดียวกัน
การพัฒนาอีกทางหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและมักจะถูกมองข้ามไปเสมอก็คือ งานวิจัยและพัฒนา (Research and Development)
เราทุกคนคุ้นเคยกับผลผลิตที่เกิดจากสิ่งประดิษฐ์กันดี ไม่ว่าจะเป็น
iPhone ของ Apple อินเตอร์เน็ตและเฟซบุ๊คที่ทุกคนอ่านกันอยู่
รถยนต์ที่นั่ง ไฟฟ้าที่ใช้ ไม่ว่าเรามองมุมใดของประวัติศาสตร์ เราก็จะค้นพบว่างานวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเป็นสิ่งที่ผลักดันให้สังคมก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ
อาจกล่าวได้ว่างานวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเป็น “การพัฒนา” อย่างหนึ่งที่จะผลักดันสังคมให้เดินไปข้างหน้า
มีความสำคัญไม่แพ้การพัฒนาทางเศรษฐกิจเลยทีเดียว
คำถามคือเราให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนามากน้อยแค่ไหน?
จากรายงานของธนาคารโลก[1] (World Bank) เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านงานวิจัยและพัฒนาเทียบเป็นสัดส่วนของ
GDP พบว่า
สวีเดน
3.74%ญี่ปุ่น 3.4%เกาหลี 3.27%สหรัฐอเมริกา
2.82%สิงคโปร์ 2.27%ออสเตรเลีย 2.06%จีน 1.42%มาเลเซีย 0.64%ไทย 0.25%มองโกเลีย 0.21%
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ประเทศที่จัดได้ว่า “พัฒนาแล้ว”
ส่วนมากก็ยังให้ความสำคัญกับการงานวิจัยและพัฒนา และประเทศที่ให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนามากก็มักจะเป็นประเทศที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีจากผลิตภัณฑ์ของประเทศนั้นๆ
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น โทรทัศน์จากเกาหลี เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดน
ซอฟท์แวร์จากอเมริกา ฯลฯ เห็นได้ชัดว่างานวิจัยและพัฒนาสามารถส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจเช่นกัน
นอกจากผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจแล้ว ผลของงานวิจัยและพัฒนาก็ยังสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและระดับการศึกษาไม่ว่าจะด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก
หรือกลวิธีการสื่อสารที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุด งานวิจัยคือการจัดการ “องค์ความรู้”
ในสังคมที่จะส่งผ่านต่อไปให้คนรุ่นหลังได้อย่างเป็นระบบ
(ขอบคุณข้อมูลจาก ประเทศไทยให้ความสำคัญกับงานวิจัยแค่ไหน?http://whereisthailand.info/2011/12/rd-budget/)
ด้วยตะหนักถึงความสำคัญของงานวิจัยและพัฒนาที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
ปตท
จึงได้ดำริโครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยองดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในตอนที่แล้วนั่นเอง
ในตอนหน้าเราจะมาดูกันว่าปรัชญาของสถาบันดังกล่าวด้านการศึกษาเป็นอย่างไรกัน


0 ความคิดเห็น: